วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เลี้ยงสัตว์ตามราศีเกิด

เลี้ยงสัตว์ตามราศีที่เกิด
ราศีเมษ (13 เม.ย. - 13 พ.ค.)
เลี้ยงสัตว์อะไรต้องเน้นที่ความซื่อสัตย์
ไม่ว่าจะเป็นหมาหรือแมวก็ดีทั้งนั้น
ราศีพฤษภ (14 พ.ค. - 13 มิ.ย.)
ควรจะเลี้ยงปลา จะเป็นปลาอะไร พันธุ์อะไรได้หมด
แต่ต้องเป็นปลาสวยงามเท่านั้น หรือถ้าไม่เลี้ยงปลา
จะหันไปปลูกต้นไม้ก็ดีเหมือนกัน
ราศีเมถุน (14 มิ.ย. - 14 ก.ค.)
ต้องเป็นสัตว์ปีก เช่น นก
หรือจะเอาภาพสัตว์ปีกติดไว้ที่ผนังบ้านก็เป็นมงคลเหมือนกัน
ราศีกรกฎ (15 ก.ค. - 16 ส.ค.)
สัตว์น้ำที่มีความแข็งแรง ถ้าจะเลี้ยงปลา ก็ต้องเป็นปลามังกร
หรือปลาคาร์ป เน้นที่ความสง่างาม ไม่ใช่สวยงาม
ราศีสิงห์ (17 ส.ค. - 16 ก.ย.)
ความจริงราศีนี้ต้องเลี้ยงสัตว์ป่า ถ้าจะเลี้ยงสุนัข
ก็ต้องเป็นพันธุ์ที่สง่างาม และดุหน่อย
ราศีกันย์ (17 ก.ย. - 16 ต.ค.)
เป็นคนรักอิสระ ไม่แนะนำให้เลี้ยงสัตว์ประเภทใดเลย
แต่แนะนำให้ไปทำบุญกับมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ต่างๆ แทน
ราศีตุลย์ (17 ต.ค. - 15 พ.ย.)
เป็นคนรักอิสระเหมือนกัน ไม่ควรเลี้ยงอะไรไว้ในบ้าน
หรือถ้าคิดว่าเลี้ยงแล้วให้คนอื่นในบ้านมาช่วยดูแล
แนะนำว่าอย่าเลี้ยงเลย จะเป็นภาระของคนอื่นเสียเปล่าๆ
ถ้าจะเลี้ยง แนะนำให้เลี้ยงปลา แต่ไม่ใช่ปลาตู้ ควรจะเป็นปลาบ่อ
ราศีพิจิก (16 พ.ย. - 15 ธ.ค.)
เป็นราศีค่อนข้างลึกลับ ถ้าเลือกสัตว์ก็ต้องมีลักษณะเดียวกัน
หรือถ้าจะเลี้ยงสุนัข ก็ควรเลือกพันธุ์ที่ขนปุกปุยหน่อย
ราศีธนู (16 ธ.ค. - 14 ม.ค.)
ราศีนี้เป็นเจ้าของได้ แต่ต้องให้คนใกล้ตัวช่วยเลี้ยงให้
ถ้าจะเลี้ยงหมาก็ต้องเป็นหมาพันธุ์ดุแต่ตัวเตี้ย ไม่เน้นที่ความสง่างาม
ราศีมังกร (16 ม.ค. - 12 ก.พ.)
ต้องเลี้ยงแมวสีสวาดถึงจะเหมาะสม
ราศีกุมภ์ (13 ก.พ. - 13 มี.ค.)
เป็นคนเดินทางไปไหนมาไหนบ่อย
เป็นคนขี้รำคาญ ไม่ควรจะเลี้ยงสัตว์เลย
ราศีมีน (14 มี.ค. - 12 เม.ย.)
เหมาะกับปลาสวยงาม เช่น ปลาเงิน-ปลาทอง

วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2553

วิธีการดูแลสุนัข...เบื้องต้นที่เราควรทราบง่ายๆดังนี้


 
1.ไม่ควรเลี้ยงสุนัขไว้บนพื้น ลื่น เช่นกระเบื้อง หินอ่อนขัด เป็นต้น เพราะจะทำให้ขาสุนัขไม่สวย ขาจะแบะออกคล้ายๆกับว่ายืนได้ไม่มั่นคง
2. ไม่ควรอาบน้ำให้ลูกสุนัขที่อายุยังไม่ถึง 3 เดือน ถ้ารู้สึกว่าสกปรกใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดขนข้างนอกก็พอ ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ อาบน้ำแล้วให้รีบเช็ดและเป่าให้แห้ง เดี๋ยวสุนัขจะเป็นหวัด
3. ระวัง ! อย่าให้ลูกสุนัขมุดใต้กรง หรือใต้อะไรที่แข็งและเป็นคาน เพราะมีโอกาสเสี่ยงที่จะเข้าไปติด ถูกกดทับ หรือเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้เส้นหลังเสียได้(กระดูกสันหลังจะแอ่น)
4. ควรดูแลรักษาปากและฟันของสุนัข อย่าให้กัดแทะของแข็งเกินไป เดี๋ยวฟันไม่แข็งแรงควรหากระดูกเทียมให้สุนัขแทะเล่น เอากระดูกแบบสีขาวและมีฟลูออไรด์ด้วยจะได้ทำความสะอาด ฟันสุนัขไปในตัว
5. เมื่อสุนัขเริ่มเป็นหนุ่มสาว(อายุ 7-8 เดือน) อย่าเพิ่งรีบให้ผสมพันธุ์ เพราะสุนัขยังไม่โตเต็มที่ อาจทำให้หยุดการเจริญเติบโตและทำให้ตัวเล็ก แล้วก็อาจจะแท้งหรือให้ลูกที่ไม่สมบูรณ์
6. เมื่อเริ่มโต สุนัขจะเริ่มมีขนร่วง ไม่ต้องแปลกใจ เป็นธรรมชาติของสุนัขที่มีการเจริญเติบโต
7. อาหารที่ใช้ควรเป็นอาหารเม็ด เพราะสะดวกรวดเร็ว ถ้าให้อาหารธรรมดา (ทำเอง) สุนัขจะเลือกกินแล้วจะไม่กินอาหารเม็ดอย่าให้แทะกระดูกจริงเพราะเดี๋ยวจะไป ทิ่มกระเพาะสุนัขและจะติดคอได้ง่าย
8. การฉีดวัคซีนและถ่ายพยาธิ ควรทำตามตารางที่สัตว์แพทย์แนะนำ

วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2553

สุนัขพันธุ์โกลเด้น

นิสัยของเจ้าโกลเด้น รีทรีฟเวอร์
           โกลเด้น รีทรีฟเวอร์เป็นสุนัขที่ชอบอยู่ใกล้ชิดกับคน เมื่อเจอคนแปลกหน้ามันมักจะกระดิกหางวิ่งเข้าไปต้อนรับด้วยท่าทางดีใจราวกับ ว่าได้พบ เพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมานาน สุนัขพันธุ์นี้จึงไม่เหมาะอย่างยิ่งที่คุณจะนำมาใช้เฝ้าบ้าน เพราะมันไม่มีลักษณะนิสัยที่ก้าวร้าวต่อคนแปลกหน้า แม้บางครั้งโกลเด้น รีทรีฟเวอร์จะเห่าเสียงดังเมื่อคนแปลกหน้าล่วงล้ำเข้ามาในอาณาเขต แต่ลักษณะการสะบัดหางด้วยท่าทีเป็นมิตร จะทำให้คนแปลกหน้าที่คุ้นเคยกับสุนัข มาก่อนทราบว่ามันเห่าด้วยความดีใจ มากกว่าที่จะเห่าไล่หรือตรงเข้าไปทำร้าย โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ชอบที่จะเป็นศูนย์กลางการเอาใจใส่จากเจ้าของ บาง ครั้งเมื่อเจ้าของสาละวนอยู่กับแก้วน้ำในมือ เจ้าโกลเด้นอาจจะใช้ปากพลิกแก้วน้ำ ให้น้ำหกรดจมูกของมันเพื่อให้เจ้าของหันมาสนใจที่ตัวมันมากกว่าที่แก้วน้ำ สุนัขพันธุ์นี้มักคิดว่าตัวเองเป็นเพื่อนสนิทของเจ้าของ และคิดว่ามันเป็นมนุษย์คนหนึ่ง เหมือนกัน เห็นได้จากการที่มันมักจะกระโดดขึ้นไปวางท่านั่ง หรือนอนบนเก้าอี้หรือโซฟา ด้วยทีท่าเหมือนกับคน พฤติกรรมเหล่านี้เป็นเสน่ห์พิเศษ ที่ทำให้เจ้าของหลงรัก และมองว่าเป็นความน่ารักเฉพาะตัวของเจ้าโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ที่ไม่มีสุนัขพันธุ์ไหน ทำได้เหมือน โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ เป็นสุนัขที่ชอบใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน รักการผจญภัย และมีความอยากรู้อยากเห็นเหมือนเด็กๆ มันชอบกระโดดไปตามที่ต่างๆ ยืดตัวขึ้นสูงเพื่อชะโงกดูว่ามีอะไรอยู่บนเคาน์เตอร์ หรือเดินพิสูจน์กลิ่น ไปตามสุมทุมพุ่มไม้รอบบ้าน และเป็นนักขุดที่ทำให้สนามเป็นหลุมเป็นบ่อไปทั่ว ทั้งนี้ก็เพื่อสนองความอยากรู้อยากเห็นของตัวมันนั่นเอง โกลเด้น รีทรีฟเวอร์บางตัวมีพฤติกรรมที่คุณอาจจะเห็นว่าแปลกสักหน่อย คืองับแขนเจ้าของแล้วดึงไปข้างหน้า เพื่อพาเจ้าของไปยังที่ต่างๆ ที่มันอยากพาไปเพื่อให้เจ้าของได้มีส่วนร่วมในการผจญภัยของมันด้วย   โกลเด้น รีทรีฟเวอร์เป็นสุนัขที่มีต้นกำเนิดมาเพื่อล่าสัตว์ที่อยู่ริมน้ำ ดังนั้นบุคลิก ที่โดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของมันคือชอบลงไปในบริเวณที่มีน้ำขังอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ กระถางบัว บ่อปลา หรือแม้แต่ชามใส่น้ำของตัวมันเอง เรามักเห็นโกลเด้นเดินไป เพื่อเอาเท้าข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างวางลงในชามใส่น้ำพร้อมกับเลียน้ำขึ้น ดื่ม และเมื่อเจ้าของดุเมื่อมันทำให้พื้นบ้านเปียกแฉะไปด้วยน้ำ มันก็มักจะทำทีท่าเหมือน กับว่าได้รับชัยชนะในการเล่นซน และไม่มีความรู้สึกผิดใดๆ ที่ได้ทำอย่างนั้น ในกรณีที่พื้นบ้านของคุณไม่เหมาะกับการเปียกน้ำตลอดวัน ขอแนะนำให้วางชามใส่น้ำไว้บนขาตั้งที่มันไม่สามารถแหย่เท้าลงไปได้ และควรมีกาละมังใส่น้ำไว้เมื่อคุณพร้อมที่จะอนุญาตให้เจ้าโกลเด้นเล่นน้ำตาม สัญชาติญาณที่มีมาตั้งแต่เกิด
ด้วยลักษณะนิสัยและความต้องการเช่นนี้ของโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ สุนัขพันธุ์นี้ จึงไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะอาศัยอยู่ในเมืองที่ไม่มีสนามหรือบ่อน้ำที่จะให้ พวกมัน ออกกำลังกายได้
 
สิ่งที่โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ต้องการ
            
ถ้าจะถามว่าโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ต้องการอะไรจากเจ้าของบ้าง คำตอบแรกก็คือความใส่ใจ เพราะเจ้าโกลเด้นเป็นสุนัขที่ต้องการความใส่ใจเป็นพิเศษจนถึงขนาดเป็นส่วน หนึ่งในชีวิต เจ้าของเลยทีเดียว แน่นอนว่าพวกมัน ต้องการที่จะออกไปวิ่งเล่นในสวนรอบๆ บ้าน แต่มันก็ต้องการให้เจ้าของออกไปเล่นกับมันด้วย และหากคุณเคยออกไปใช้ชีวิต กลางแจ้งร่วมกับมันละก็ เชื่อได้เลยว่ามันกำลัง เฝ้ารอการได้ออกไปใช้ชีวิต กลางแจ้งร่วมกันคุณอีกครั้ง

การเกาคางหรือลูบหลังลูบไหล่ เป็นสิ่งที่โกลเด้นต้องการเป็นลำดับถัดมา เพราะนั่นเป็นการสื่อภาษาทางร่างกายว่าคุณรักและเอาใจใส่พวกมันอยู่เสมอ และจะยิ่งทำให้พวกมันรักและบูชาคุณมากยิ่งขึ้น

การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ต้องการอย่างสม่ำเสมอ วิธีการออกกำลังที่เหมาะสมก็คือการพาเดิน การปล่อยให้วิ่ง หรือการโยนสิ่งของออกไปไกลๆ เพื่อให้ไปคาบกลับมา รวมทั้งการว่ายน้ำในกรณีที่มีแอ่งน้ำที่สะอาดและปลอดภัยด้วย (บางบ้านปล่อยให้ลงไปในสระว่ายน้ำด้วยค่ะ)

อาหารที่โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ขนาดโตเต็มวัยต้องการควรเป็นอาหาร ในระดับซุปเปอร์พรีเมี่ยมโดยให้เพียงวันละ 1 ครั้งในปริมาณที่เพียงพอ และในระหว่างวันอาจให้บิสกิตเสริมได้วันละ 2 ครั้ง

บริเวณ สำหรับนอนเป็นอีกส่วนหนึ่งที่โกลเด้นต้องการ ผ้าปูรองนอนนุ่มๆ หาของเล่นส่วนตัวสักชิ้นสองชิ้นที่มันสามารถกัดแทะได้ เช่น กระดูกเทียม หรือลูกบอลยางวางไว้รอบตัวให้มันด้วย จะช่วยให้โกลเด้นมีที่สงบและปลอดภัยสำหรับ ช่วงเวลาที่พวกมันต้องการความเป็นส่วนตัวและต้องการพักผ่อน

สิ่งสุดท้ายที่เจ้าของสามารถตอบสนองความต้องการให้แก่โกลเด้นได้ก็คือการพาเจ้า โกลเด้นไปพบสัตวแพทย์เป็นประจำเพื่อฉีดวัคซีนที่จำเป็น รวมทั้งเช็คร่างกาย ว่าปราศจากพยาธิ และโรคภัยต่างๆ

นอกจากนี้เจ้าของยังสามารถช่วยดูแลเรื่องความสะอาดภายในใบหู ดูแลเรื่องเห็บและหมัด รวมทั้งตัดเล็บให้มันอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้วิ่งและกระโดดง่ายขึ้น หากคุณสามารถดูแลในสิ่งพื้นฐานที่โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ต้องการจากคุณได้แล้ว คุณอาจประหลาดใจก็ได้ว่า เจ้าสิ่งมีชีวิตตัวนี้สามารถสร้างความรัก ความผูกพันและความประทับใจให้กับคุณได้อย่างคาดไม่ถึงทีเดียว

กลอน"น้องหมา"

คุณสมบัติหมาดี "แค่สี่อย่าง"
ก็พอสร้างจุด เด่นความเป็นหมา
"หนึ่ง"..มีน้อยกินน้อยค่อยเจรจา
ไม่ต่อว่าเรียกร้องสิ่ง ต้องการ

"สอง"..นอนง่ายหลับง่ายไม่เลือกที่
ขอเพียงมี ที่บังซุกสังขาร
"สาม"..ยศถาบรรดาศักดิ์ที่ดักดาน
เพียงมองผ่านไม่ไขว่ คว้ามาใส่ตน

"สี่"..สำคัญคือรู้จักรักเจ้าของ
ไม่ขุ่นข้อง แว้งกัดยามขัดสน
เลิกยกคำ "เลวเหมือนหมา" มาด่าคน
แล้วเริ่มต้น "ดีเหมือน หมา" ดีกว่าเอย

ควรดูอะไรในลูกสุนัข

ควรดูอะไรในลูกสุนัข
ลูกสุนัขที่เลือกมาควรมลักษณะนิสัยที่ร่าเริง อยากรู้อยากเห็น ไม่ตึงเครียด ไม่กลัวคนแปลกหน้า บ่งบอกถึงลักษณะความเชื่อมั่นในคัวเอง แต่ถ้าเชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไป อาจกลายเป็นสุนัขดื้อในอนาคตก็ได้
การตรวจลูกสุนัข
  1. ตามีประกายแจ่มใส สีถูกต้องตามลักษณะ ไม่มีขี้ตา รวมทั้งอาการอักเสบระคายเคือง
  2. ใบหูด้านในมีสีชมพูไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่มีสะเก็ดซึ่งอาจเป็นเพราะมีไรหูหรือความผิดปกติอย่างอื่น
  3. ผิวหนังไม่มันเยิ้มหรือแห้งเป็นสะเก็ดสุนัข ไม่มีแผลหรือก้อนนูนที่ผิวหนัง ขนแข็งแรงไม่หลุดร่วงง่าย
  4. เหงือกมีสีชมพูและไม่มีกลิ่น ฟันเรียงตัวสบกันพอดี
  5. บริเวณทวารหนักควรสะอาดและแห้ง ไม่มีลักษณะท้องเสียหรือมีสิ่งผิดปกติออกมาจากอวัยวะเพศ
  6. เมื่อยกสุนัขขึ้นควรรู้สึกหนักไม่ดิ้นรน บ่งบอกว่าเป็นสุนักที่เชื่อฟังคำสั่งที่ดี
การประเมินนิสัยลูกสุนัข
เริ่มดูจากแม่ซึ่งสามารถบอกนิสัยของลูกได้ จากนั้นดูพฤติกรรมลูกสุนัขต่อตัวอื่นๆในครอกเดียวกัน บางตัวมีนิสัยก้าวร้าว ในขณะที่บางตัวมีลักษณะยอมจำนน ซึ่งทั้งสองประเภทอาจเป็นสุนัขที่มีปัญหาเมื่อโตขึ้น

วันอังคารที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2553

การดูแลเจ้าตูบ


วิธีการดูแลสุนัข…เบื้องต้นที่เราควรทราบง่ายๆดังนี้
1.ไม่ควรเลี้ยงสุนัขไว้บนพื้นลื่น เช่นกระเบื้อง หินอ่อนขัด เป็นต้น เพราะจะทำให้ขาสุนัขไม่สวย ขาจะแบะออกคล้ายๆกับว่ายืนได้ไม่มั่นคง
2. ไม่ควรอาบน้ำให้ลูกสุนัขที่อายุยังไม่ถึง 3 เดือน ถ้ารู้สึกว่าสกปรกใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดขนข้างนอกก็พอ ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ อาบน้ำแล้วให้รีบเช็ดและเป่าให้แห้ง เดี๋ยวสุนัขจะเป็นหวัด
3. ระวัง ! อย่าให้ลูกสุนัขมุดใต้กรง หรือใต้อะไรที่แข็งและเป็นคาน เพราะมีโอกาสเสี่ยงที่จะเข้าไปติด ถูกกดทับ หรือเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้เส้นหลังเสียได้(กระดูสันหลังจะแอ่น)
4. ควรดูแลรักษาปากและฟันของสุนัข อย่าให้กัดแทะของแข็งเกินไป เดี๋ยวฟันไม่แข็งแรงควรหากระดูกเทียมให้สุนัขแทะเล่น เอากระดูกแบบสีขาวและมีฟลูออไรด์ด้วยจะได้ทำความสะอาด ฟันสุนัขไปในตัว
5. เมื่อสุนัขเริ่มเป็นหนุ่มสาว(อายุ 7-8 เดือน) อย่าเพิ่งรีบให้ผสมพันธุ์ เพราะสุนัขยังไม่โตเต็มที่ อาจทำให้หยุดการเจริญเติบโตและทำให้ตัวเล็ก แล้วก็อาจจะแท้งหรือให้ลูกที่ไม่สมบูรณ์
6. เมื่อเริ่มโต สุนัขจะเริ่มมีขนร่วง ไม่ต้องแปลกใจ เป็นธรรมชาติของสุนัขที่มีการเจริญเติบโต
7. อาหารที่ใช้ควรเป็นอาหารเม็ด เพราะสะดวกรวดเร็ว ถ้าให้อาหารธรรมดา (ทำเอง) สุนัขจะเลือกกินแล้วจะไม่กินอาหารเม็ดอย่าให้แทะกระดูกจริงเพราะเดี๋ยวจะไป ทิ่มกระเพาะสุนัขและจะติดคอได้ง่าย
8. การฉีดวัคซีนและถ่ายพยาธิ ควรทำตามตารางที่สัตว์แพทย์แนะนำ
การฉีดวัคซีนให้ลูกสุนัข
ลูกสุนัขต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคตามระยะเวลาที่สัตวแพทย์กำหนดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคร้ายแรง
และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูกสุนัขเรามักจะเริ่มฉีดวัคซีนเมื่อลูกสุนัข
อายุได้ 6-8 เดือน ป้องกันโรคไข้หวัด
อายุ 10 สัปดาห์ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไวรัสลำไส้
อายุ 12 สัปดาห์ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
อายุ 14 สัปดาห์ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หัดอีกครั้ง
อายุ16 และ 24 สัปดาห์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไวรัสลำไส้ และโรคพิษสุนัขบ้าอีกครั้ง เช่นเดียวกัน
อุปกรณ์เสริมสำหรับให้ยาและให้อาหารลูกสุนัขก็เหมือนทารกที่จะรอแต่ดื่มนมจากอกแม่ของมัน ย่อมไม่เพียงพอแน่ เราควรจัดหาอุปกรณ์สำหรับเลี้ยงดูลูกสุนัขที่ยัง พึ่งตัวเองไม่ได้ เช่นกรวยยาสำหรับป้อนอาหารเหลว ขนมนมสำหรับป้อนนม ไซริงค์ฉีดยาสำหรับป้อนยา เป็นต้น

วิธีป้อนนมให้ลูกสุนัข
ลูกสุนัขที่ยังอ่อนมากๆลืมตายังไม่ได้ จำเป็นที่จะ ต้องได้รับอาหารที่เพียงพอ กรณีที่แม่ของมันคลอดลูกออกมามาก ทำให้มีน้ำนมที่จะเลี้ยงลูกไม่เพียงพอเราต้องช่วยจัดหาน้ำนมเพิ่มให้มัน โดยใช้ขวดนมเด็กใส่น้ำนมเลี้ยงเด็กทารกป้อนให้มันดูดกิน หากเป็นเด็กทารกการป้อนนมจากขวดต้องให้เด็กนอน หงาย แต่ลูกสุนัขควรให้มันอยู่ในท่ายืนหรือนอนคว่ำปกติ แล้วจึงป้อนนมจากขวดให้มันดื่มกินก็ได้อาหารเสริมกับน้ำนมแม่   น้ำนมที่ใช้เลี้ยงลูกสุนัขทั่วไปมีขายตามท้องตลาด ไม่ควรให้นมข้นหวานเช่นเดียวกับที่ห้ามใช้ในเด็กทารก ถ้าเป็นไปได้การผสมนมให้ลูกสุนัขควรบีบน้ำนมจากแม่ของมันผสมกับนมกระป๋อง สำหรับเลี้ยงลูกสุนัข เพื่อที่มันจะได้คุ้นเคย และดื่มกินได้มากกว่าปกติอาหารสำหรับลูกสุนัข สุนัขก็ต้องการอาหารเช่นเดียวกับคน ยิ่งเป็นลูกสุนัขด้วยแล้วอาหารที่ให้มันต้องประกอบไปด้วยสารอาหารอย่างครบ ถ้วนเท่า ที่มันต้องการ เพื่อเสริมสร้างให้ร่างกายของมันได้เติบโตขึ้นมาเป็นสุนัขใหญ่ที่สมบูรณ์ อย่างเต็มที่เมื่อลูกสุนัขเข้าสู่วัยหนุ่มสาว เมื่อสุนัขเติบโตขึ้น ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณะ